ทรัพย์สมบัติในโลกนี้เป็นเพียงเสบียงในการสร้างบารมี และมีไว้เพื่อหล่อเลี้ยงสังขารให้ดำรงอยู่ได้ ส่วนอริยทรัพย์เป็นทรัพย์อันประเสริฐที่จะส่งผลให้ได้รูปสมบัติ โภคสมบัติ คุณสมบัติ ตลอดจนสวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติในภพภูมิที่ได้ไปบังเกิด เป็นสิ่งที่นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ทรงสรรเสริญและแนะนำให้สั่งสมไว้ เพราะอริยทรัพย์เป็นสหายหรือมิตรแท้ในการเดินทางไกลในสังสารวัฏ จะติดตามตัวเราไปเหมือนเงาตามตัว ซึ่งอริยทรัพย์จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการสั่งสมบุญอย่างเดียวเท่านั้น
มีวาระพระบาลีที่กล่าวไว้ใน ขุททกนิกาย ชาดกว่า
“มหาสมุทรไม่อิ่มด้วยน้ำที่ไหลมาจากทุกทิศทุกทาง ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ พระราชาไม่ทรงอิ่มด้วยราชสมบัติ คนพาลไม่อิ่มด้วยบาป หญิงไม่อิ่มด้วยของ ๓ อย่าง คือ เมถุนธรรม เครื่องประดับ และการคลอดบุตร พราหมณ์ไม่อิ่มด้วยมนต์ ผู้ได้ฌานไม่อิ่มด้วยวิหารสมาบัติ คือการเข้าฌาน พระเสขะไม่อิ่มด้วยการสละออกในการให้ทาน ผู้มักน้อยไม่อิ่มด้วยธุดงค์คุณ ผู้เริ่มทำความเพียรไม่อิ่มด้วยการปรารภความเพียร ผู้แสดงธรรม คือนักเทศน์ไม่อิ่มด้วยการสนทนาธรรม ผู้กล้าหาญไม่อิ่มด้วยบริษัท ผู้มีความศรัทธาไม่อิ่มด้วยการอุปัฏฐากพระสงฆ์ ทายกไม่อิ่มด้วยการบริจาค บัณฑิตไม่อิ่มด้วยการฟังธรรม บริษัท ๔ ไม่อิ่มในการเฝ้าพระพุทธเจ้า”
ที่มา http://buddha.dmc.