เคล็ดลับดีๆ เลือกซื้อผ้าปูที่นอนที่ถูกวิธี

ที่นอนที่สบายที่สุด ที่คุณเคยได้นอนหลับและสัมผัสอยู่บนเตียงนั้นดูสิคะ? ผ้าปูที่นอนที่ดีก็เปรียบเสมือนกับคู่นอนที่ดี เพราะอะไร? ผ้าปูที่นอนนั้นสัมผัสกับผิวของเราโดยตรง ผ้าปูที่นอนที่เหมาะสมสามารถเพิ่มความสุขในการนอนให้เราได้ การเลือกผ้าปูที่นอนมีความสำคัญพอๆ กันกับคุณภาพของฟูกที่นอนและผ้าห่มที่สบายๆ ทราบรึไม่ว่าเครื่องนอนมีส่วนสำคัญที่ทำให้การนอนหลับของเราดีขึ้นค่ะ ปัจจุบันผ้าปูที่นอนมีความหลากหลายทั้งเนื้อผ้าและลวดลายอย่างมากมายในท้องตลาด ในบล็อกนี้แอร์จะเขียนถึงสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ในการเลือกผ้าปูที่นอน เพื่อให้เลือกได้เหมาะกับคุณที่สุดค่ะ

Review-lovelyair.com-bed-sheets-2

วิธีการเลือกซื้อผ้าปูที่นอนที่ถูกวิธี

  1. เลือกขนาดผ้าปูให้ถูกต้องกับขนาดของที่นอน ขนาดของที่นอนในเมืองไทย จะมีดังนี้

» ขนาด 3.5 ฟุต (Single)

» ขนาด 5 ฟุต (Queen)

» ขนาด 6 ฟุต (King)

ความกว้างของที่นอนจะแตกต่างกันไปตามขนาด  แต่ความยาวจะเท่ากันทุกขนาด นั่นคือ 78 นิ้ว  หรือ 198 ซม.

2.  เลือกผ้าปูให้เข้ากับสีของโทนห้องนอน และลักษณะการตกแต่งของห้องนอน หากมีฐานเตียงหรือหัวเตียงก็ควรเลือกให้เข้ากับสีของฐานเตียงและห้วเตียงด้วยเช่นกัน เพื่อความสวยงามและความน่านอนของห้องนอน  โดยเฉพาะในปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผ้าปูที่นอนนั้นเป็นเสมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในการตกแต่งห้องนอนที่เป็นส่วนหนึ่งของที่อยู่อาศัยของเรา

3.  เลือกผ้าปูจากวัตถุดิบที่ใช้ในการทอ  เส้นใยที่ใช้ในการทอ โดยหลักทั่วไปแล้วจะมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ

» เส้นใยที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ 100% อาทิเช่น  เส้นใยที่ทำมาจากฝ้าย (Cotton)  เส้นใยที่ทำมาจากไหม (Silk) เส้นใยที่ทำมาจากใยไผ่ (ฺBamboo)  เป็นต้น

» เส้นใยที่ทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ 100% อาทิเช่น  เส้นใย 100% Polyester  เส้นใย Micro Fiber

» เส้นใยที่ทำมาจากเส้นใยผสม คือการที่นำส่วนผสมเส้นใยธรรมชาติมาผสมเข้ากันกับส่วนผสมของเส้นใยสังเคราะห์แล้วปั่นออกมาเป็นเส้นใยผสม  ซึ่งมีหลากหลายชื่อที่ใช้เรียกกันในท้องตลาด

ผ้าแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป

• ผ้าฝ้าย (Cotton) : เนื้อผ้านุ่ม ช่วยในการซับเหงื่อ ดูดซับความชื้น ระบายอากาศและความร้อนได้ดี ซักรีดทำความสะอาดง่าย ซักรีดได้ที่อุณหภูมิสูง

ผ้าไหม (Silk) : เมื่อนำมาทอเป็นผืนผ้า ผ้าจะอ่อนนุ่ม เป็นมัน เหนียว ยืดหยุ่นตัวดี ดูดซับความชื้น ดูหรูหราเนื้อผ้าเป็นมันแวววาว ราคาค่อนข้างแพง ซักรีดยาก น้ำหนักจะเบาและค่อนข้างยับง่าย

ผ้าใยไผ่ (Bamboo) : นุ่มนวล เงางาม มีลวดลายที่เกิดจากธรรมชาติของเส้นใย ดูดซับน้ำและความชื้นได้เป็นอย่างดีเส้นใยโปร่งระบายอากาศได้ดี สามารถต้านการเจริญของแบคทีเรียได้ดีมาก

ผ้าซาติน (Satin) : เนื้อผ้าค่อนข้างหนา เนื้อผ้าเนียนนิ่มลื่นเย็นสบาย ผิวผ้าลื่นเป็นเงา เรียบหรู  ตัวผ้ามีน้ำหนัก ทิ้งตัวดี

4.  เลือกจากวิธีการดูแลรักษาและการใช้งาน

วิธีการที่ใช้ในการทอผ้าปูที่นอนมี อยู่ด้วยกัน 2 แบบ

» แบบที่ 1 ทอแบบลายขัด (Plain) เนื้อผ้าที่ได้จะไม่ขึ้นเงาแต่จะเป็นการทอแบบแน่น  เพราะฉะนั้นข้อดีของลายขัดคือความแข็งแรงคงทน  ใช้ได้เป็นระยะเวลานาน   ข้อเสียคือ เนื้อผ้าจะไม่นุ่มเท่าการทอแบบซาติน  ดังที่เราจะกล่าวต่อไป

» แบบที่ 2 ทอแบบขึ้นเงา (Satin /Sateen) เนื้อผ้าที่ได้จะขึ้นเงา  เนื้อจากแป็นการทอที่ทำให้เส้นด้ายมีเนื้อที่ในการตกกระทบของแสงมากกว่าแบบแรก จึงทำให้เห็นเนื้อผ้าขึ้นเป็นเงา  ข้อดีของการทอแบบขึ้นเงาคือ เนื้อผ้าที่ได้จะนุ่ม ลื่น ข้อเสียก็คือ ความที่เส้นด้ายมีเนื้อที่มากขึ้นในการกระทบกับแสง จึงทำให้ในการซักล้าง ทำความสะอาด เส้นด้ายดังกล่าวจะกระทบโดยตรงกับน้ำยาซักล้าง และ การขัด การถู และการปั่น  จึงทำให้อายุการใช้งานและความคงทนสั้นลง

5.  เลือกจากจำนวน เส้นด้ายในการทอ/1 ตารางนิ้ว  (Tread Count)  ตามมาตรฐานของสิ่งทอ ในการนับจำนวนความหนาแน่นของเส้นด้ายเราจะนับกันอยูที่ จำนวนเส้นด้ายแนวนอน + จำนวนเส้นด้ายแนวตั้ง ในพื้นที่ 1 ตารางนิ้ว เท่านั้น จึงจะเป็นมาตรฐานที่ถูกต้อง  จำนวนน้อยหรือมาก/1ตารางนิ้ว จะมีผลกับราคาของผ้าปูชุดนั้นๆ หากจำนวนความหนาแน่นของเส้นด้าย/1 ตารางนิ้วยิ่งมาก แสดงว่าความหนาแน่นของเนื้อผ้าก็ยิ่งมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ กรรมวิธีในการทอ (ดังที่ได้กล่าวมาแล้วในข้อ4)

Review-lovelyair.com-bed-sheets-6

เพิ่มเติมนิดหนึ่งค่ะ ส่วนใหญ่แล้วเวลาเราเลือกซื้อผ้าปูที่นอนเรามักจะเลือกซื้อจากจำนวนเส้นด้ายใช่ไหมค่ะผ้าปูที่นอนส่วนใหญ่มีจำนวนเส้นด้าย 180-300 เส้น หรือมากกว่า โดย Thread Count ที่สูงขึ้นหมายถึงผ้ามีความนุ่มมากขึ้นและโดยทั่วไปหมายถึงราคาที่แพงขึ้นด้วย ผู้ซื้อจำนวนมากเข้าใจว่า Thread Count ที่สูงกว่าหมายถึงคุณภาพที่ดีกว่า ซึ่งจริงๆ แล้วอาจไม่เป็นจริงค่ะ เช่น ผ้าที่มี Thread Count สูงแต่ผลิตจากวัสดุเส้นด้ายที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน อาจไม่ให้ความนุ่มและความสบายอย่างที่คุณคาดหวังไว้ค่ะ นอกจากสิ่งที่กล่าวมาแล้ว วิธีการทอก็มีผลเป็นอย่างมากต่อคุณสมบัติของผ้าค่ะ วิธีทอที่แตกต่างกันจะได้เนื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันด้วยเช่นกันค่ะ

ผ้าปูที่นอนและเครื่องนอนสะท้อนตัวตนของผู้ใช้ผ่านเครื่องนอน ประมาณว่าสไตล์ใครสไตล์มัน บางคนชอบผ้านุ่มๆ หรือทั้งนุ่ม ทั้งลื่น และเย็น หรือชอบแบบอุ่นๆ นุ่มๆ ชนิดของผ้าก็ต่างกันไปค่ะ จำนวนเส้นด้ายในการทอไม่ได้บ่งบอกถึงความมีคุณภาพเสมอไป เว้นแต่จะเป็นเนื้อผ้าที่ดีมากๆ และมีราคาแพงมาก จำนวนเส้นด้ายในการทอสูงเป็นเพียงเกมตัวเลขทางการตลาดที่บางบริษัทโกงตัวเลขจำนวนเส้นด้ายในการทอซึ่งอยู่ในเนื้อผ้าที่ราคาถูก ส่วนตัวชอบจำนวนเส้นด้ายในการทอ (Thread Count) 400 ขึ้นไป ชอบผ้านิ่มๆ ลื่นๆ และเย็น และแนะนำอีกว่าถ้าหากคุณต้องการผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่มีอายุการใช้งานนานหลายปีและใช้เครื่องซักผ้าในการซัก แนะนำว่าให้เลือกผ้าปูที่นอนเป็นผ้าฝ้าย (Cotton) ค่ะ และเลือกผ้าที่มีจำนวนเส้นด้ายในการทอ 300 – 500 ก็เพียงพอแล้วค่ะ

เรารู้จักวิธีการเลือกซื้อผ้าปูที่นอนที่ถูกวิธีกันแล้ว ที่นี้แอร์จะแนะนำแบรนด์ผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้เป็นตัวเลือกประกอบการซื้อสำหรับใครที่กำลังมองหาผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนค่ะ มาดูคุณสมบัติกัน

Review-lovelyair.com-bed-sheets-4

Ply&Poem  แบรนด์ผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอน ที่เน้นความเรียบ หรู (Luxury) และมีคุณภาพสูง  ทางแบรนด์จะเน้นผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนที่มีสีพื้นๆ สีขาว เทาหรือสีเบสเป็นส่วนใหญ่ สไตล์ของผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอน Ply&Poem การออกแบบส่วนใหญ่ลวดลายจะเป็นแบบการตีกรอบ (Border Design) ดูคลาสสิค เป็นสไตล์ที่ใช้กันมากในอเมริกาและยุโรป ใช้วัตถุดิบจากเส้นใยธรรมชาติ 100% ไม่มีเส้นใยผสมจาก Polyester หรือ Micro Fiber เส้นใยจากธรรมชาติ อาทิเช่น เส้นใยจากฝ้าย (Cotton)  เส้นใยจากไหม (Silk) เส้นใยจากใยไผ่ (bamboo)

Review-lovelyair.com-bed-sheets-7

สินค้าแนะนำ:

European Pillow ขนาด 26″ x 26″ คือ หมอนรูปทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่พิเศษ นิยมใช้เป็นเครื่องตกแต่งเตียง หรือเรียกอีกได้ว่า European Sham เป็น “หมอนสไตล์ยุโรป” เป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องนอน ประโยชน์คือใช้ในการตกแต่งเตียงนอน เป็นอุปกรณ์เสริมในการตกแต่งเพื่อเน้นให้เตียงนอนนั้นดูสวยงามยิ่งขึ้น ประโยชน์อื่นๆ ของการนำไปใช้อีกอย่างคือ European Pillow นั้นมีขนาดใหญ่เราสามารถเอาไว้นั่งพิงดูทีวีหรือใช้พิงอ่านหนังสือได้สบายๆ เลยค่ะ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องซ้อนหมอนหนุน 2 ใบ

Review-lovelyair.com-bed-sheets-8

Review-lovelyair.com-bed-sheets-10

Review-lovelyair.com-bed-sheets-11

ชุดผ้าปูเครื่องนอนแบบ Border Design

Review-lovelyair.com-bed-sheets-12

Review-lovelyair.com-bed-sheets-16

Ideko  เป็นแบรนด์ผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนที่ฉีกกฎผ้าปูที่นอนแบบเดิมๆ ให้คุณสนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ (Mix and Match) ผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนของคุณได้ ชุดเครื่องนอนของ Ideko นั้น ดีไซน์สวย เก๋ สีสันจัดจ้าน โมเดิร์นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื้อผ้าดี นอนสบาย มีหลายคอลเลคชั่นให้ลูกค้าเลือกซื้อ ลูกค้ายังสามารถเลือกออกแบบผ้าปูที่นอนในสไตล์ของตัวเองได้ ผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนของ Ideko ทุกชิ้นสามารถผสมผสานในเรื่องของสีสันได้อย่างลงตัว แลดูไม่น่าเบื่อ

Review-lovelyair.com-bed-sheets-13

Review-lovelyair.com-bed-sheets-14

สนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ เพิ่มสีสันด้วยผ้าปูและปลอกหมอนที่มีสีสันจัดจ้าน หลากสไตล์ ตกแต่งห้องนอนให้เก๋ ไม่เหมือนใคร

Review-lovelyair.com-bed-sheets-15

ในเรื่องของราคาทั้ง 2 แบรนด์นี้ เป็นผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนเกรดดี พรีเมี่ยม คุณภาพสูง ราคาสบายๆ และราคาไม่แพงอย่างที่คิดนะคะ เสริมอีกนิดหนึ่งค่ะการที่ที่นอนจะสบายนั้น มันไม่ใช่เพียงแค่มีผ้าปูที่นอนที่ดี ความจริงแล้วมันมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกด้วยนะคะ อาทิเช่น วิธีการปู ฟูกที่นอนที่ดี แผ่นรองที่นอนที่นุ่ม (Topper) บรรยากาศภายในห้องนอน แอร์ในห้องเย็นๆ ตลอดจนผ้าห่ม ผ้านวมและหมอนที่มีคุณภาพ เช่น ขนเป็ด เป็นต้น สรุปได้ว่าผ้าปูที่นอนมีหลายประเภท ทำจากวัสดุหลายชนิด การเลือกซื้อผ้าปูที่นอนและชุดเครื่องนอนก็ควรเลือกให้เหมาะกับคุณที่สุดค่ะ เลือกเนื้อผ้าให้เหมาะสมกับสไตล์การนอนของคุณ